ผู้บริโภคควบคุมรายจ่ายและต้องการความสะดวกสบาย
แต่ก็ยังคงทำอาหารอย่างสร้างสรรค์
การเข้าใจตัวกระตุ้นและอุปสรรคต่อการทำอาหารที่บ้าน จะช่วยให้เข้าใจแนวโน้มในตลาดอาหารปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
การทานอาหารที่ร้านและการใช้บริการสั่งกลับบ้านเป็นอุปสรรคที่ชัดเจนต่อการที่ผู้คนจะใช้เวลาในครัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่บอกว่าจากสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปัจจุบันการทำอาหารที่บ้านช่วยให้พวกเขาคุมรายจ่ายได้ดีขึ้น โดยครึ่งหนึ่งระบุว่าพวกเขาเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกลงเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย เช่น เปลี่ยนจากน้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันถั่วเหลือง
ธีมของการประหยัดค่าใช้จ่ายควบคู่กับความสะดวกสะท้อนออกมาในผลสำรวจที่พบว่า 70% ของผู้บริโภคไม่ได้ใช้บริการสั่งกลับบ้านหรือทานอาหารนอกบ้านมากกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่ผู้บริโภคเกือบเท่ากันเลือกทานอาหารพร้อมทานแทน เพราะบางคนถือว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่าการทำอาหารที่บ้าน
แต่อีกด้านหนึ่ง นอกเหนือจากเหตุผลเชิงปฏิบัติแล้ว การทำอาหารยังถูกมองว่าเป็นงานอดิเรกควบคู่ไปกับความจำเป็น โดย 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าการทำอาหารเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน และหลายคนบอกว่าพวกเขาชอบลองทำเมนูใหม่ๆ เสมอ
แม้ผู้บริโภคจะสนุกกับการทำอาหารอย่างสร้างสรรค์ แต่ 70% ของผู้คนเลือกทำเมนูที่ไม่ซับซ้อน แสดงถึงความต้องการตัวเลือกอาหารที่ทำได้ง่ายและสะดวก อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบในยุคปัจจุบัน โดยครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคบอกว่าพวกเขาซื้ออาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมหลายคนรู้สึกว่าพวกเขาทำอาหารมากขึ้น ขณะเดียวกัน 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าการทำอาหารเป็นเรื่องง่าย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้พวกเขาทำอาหารที่บ้านมากขึ้น แม้จะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายก็ตาม
หลังจากพ้นช่วงล็อกดาวน์ การทำอาหารเพื่อฉลองในงานสังคมลดลง กล่าวคือ การทำอาหารที่บ้านไม่ได้เชื่อมโยงกับกิจกรรมทางสังคมเสมอไป อย่างไรก็ตาม ประมาณครึ่งหนึ่งของครัวเรือนไทยยังคงเพลิดเพลินกับการทานอาหารร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกับญาติ เพื่อน หรือเพื่อนบ้าน ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมของการทานอาหารร่วมกันในสังคมไทย และบทบาทของการทำอาหารในการรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมและครอบครัว